วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2560

SF. กำแพง...(suga x monster)




SF. กำแพง...(suga x monster)





กร๊อบ! กร๊อบ!


เสียงหักกระดูกนิ้วมือดังลั่นไปทั่วห้องสตูร่างสูงที่เหนื่อยล้าจากการนั่งทำเพลงทั้งวันก็ทิ้งตัวเอนพิงเก้าอี้ในห้องอย่างหมดแรง วันนี้เขารู้สึกเหนื่อยจัง อยากได้กำลังใจเหมือนเมื่อก่อนจังเลยน้าา~


"จะทำอะไรอยู่นะตอนนี้หน่ะ"


ร่างสูงหมุนเก้าอี้ไปมาพร้อมทั้งเคาะปากกาไปด้วยก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลา ตี 3 เศษๆแล้วจึงตัดสิ้นใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องสตูของตัวเองไปแต่ก็ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาพ้นไปไหนสายตาคมๆคู่นั้นก็เหลือบไปมองยังสตูข้างๆที่ประตูยังคงปิดสนิทอยู่และก็ไม่รู้ด้วยว่าข้างในมีคนอยู่หรือเปล่า


"จะกลับไปนอนรึยังน้ายุนกิ"



คิมนัมจุนพูดกับตัวเองลอยๆด่อนที่สองข้าจะก้าวไปยังห้องสตูข้างๆ ห้องที่ข้างในมีคนสำคัญของเขาอยู่แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่มันทำให้คิมนัมจุนคนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะเคาะประตูห้องนี้ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขาเคยเดินเข้าเดินออกบ่อยจะตายไป


"เรื่องระหว่างเรามันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะยุนกิ"


เสียงแผ่วเบาของคนตัวโตที่รำพึงรำพันอยู่หน้าประตูทำให้สองขาเล็กๆที่กำลังจะก้าวออกไปจากห้องสตูถึงกับหยุดชะงักทันที ไม่รู้ว่านัมจุนมายืนอยู่ตรงหน้าประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ มาตั้งแต่ตอนไหน แต่ที่แน่นๆเขาไม่กล้าที่จะเอื้อมมือออกไปบิดกลอนประตูแน่ๆ


"เฮ้อออ อยากกอดจัง"


อะ...ไอ้บ้านัมจุนมาพูดเรื่องแบบนี้อยู่ตรงประตูห้องชาวบ้านเนี่ยนะ แต่อย่าว่าแต่นายเลยฉันเองก็อยากกอดนายเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เราสิงคนเริ่มมีกำแพงมาคั่นระหว่างเรามันเหมือนยิ่งเรารู้ความจริงเราก็ยิ่งกลัวมันจนท้ายที่สุดต่างฝ่ายต่างก็เริ่มสร้างกำแพงของใครของมันขึ้นมาเพื่อปิดกันความรู้สึกบางอย่างเอาไว้


"ฉันก็อยากกอดนายนัมจุน"


เสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบของคนตัวเล็กไม่อาจส่งไปถึงคนตัวสูงที่อยู่อีกฝากนึงของสตูได้เลย บางทีถ้าจะหาคนผิดของเรื่องนี้มันอาจจะเป็นเขาก็ได้เป็นมินยุนกิคนนี้แหละ เพราะเขาเลือกที่จะก้าวถอยหลังออกมาจากนัมจุนเพราะกลัว...


กลัวว่าถ้าความรู้สึกของเราสองคนรั่วไหลออกไปมันจะมีกระแส่ต่อต้านมากมายที่ประดังประเดเข้ามาเขาไม่อยากให้คนตัวโตต้องเครียดและก็ไม่อยากต้องมานั่งอึดอัด ทรมาน กับสายตาที่จ้องมองมาเหมือนว่าเขาเป็นตัวประหลาดด้วย เขาเองก็กลัวววว 


เมื่อก้าวไปต่อไม่ได้คนตัวเล็กก็ตัดสินใจทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นพิงกำแพงห้องสตูของตัวเองเพื่อทบทวนสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาโดยเฉพาะเรื่องของคิมนัมจุน ส่วนอีกฝากนึงของประตูร่างสูงที่ยืนทำใจอยู่นานว่าจะเคาะดีกรือไม่เคาะดีจนในที่สุดก็ตัดสินใจไม่เคาะและเลือกที่จะเดินออกมานั่งมองท้องฟ้าอยู่ตรงระเบียงแทน


"ถ้าผมเป็นพระจันทร์แล้วยุนกิเป็นดาวก็คงจะดีนะ...ไม่อยากห่างกันแบบนี้เลย..."


คนตัวโตนั่งเหม่อท้องฟ้าในยามดึกอย่างเหม่อลอยแหงนหน้ามองพระจันทร์กับดวงดาวอย่างอิจฉาโดยที่ไม่รู้เลยว่าด้านหลังประตูกระจกของระเบียงมีคนตัวเล็กยืนอยู่แถมเงาของมินยุนกินั้นก็โดนแสงจากพระจันทร์ส่องกระทบมาจนเงานั้นพาดไปกับร่างของคิมนัมจุนที่นั่งมองท้องฟ้าอยู่อย่างพอดิบพอดี


"ผมทรมานนะ"


ไม่รู้ว่ากำแพงของเราสองคนมันสูงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมเองที่ไม่ชัดเจนพอเลยทำให้ยุนกิต้องสร้างกำแพงกับผมสูงซะขนาดนั้น แต่ผมก็กลัวนะ กลัวว่าถ้าวันไหนวันนึงผมชัดเจนกับเรื่องของเราขึ้นมากลัวว่าคนตัวเล็กจะรับสิ่งที่จะตามมาไม่ไหว กลัวว่าคนๆนั้นจะกลับไปกลัวสังคมอีก ผมไม่อยากเห็นทุกคนหันหลังให้เขาอีกแล้วเพราะถ้ายุนกิต้องเสียใจเพราะการกระทำของผม ผมก็ขอมองดูคนตัวเล็กอยู่ห่างๆก็พอ....


#SRMWall


เพลง 네시 (4 O'clock) มันหลอนอยู่ในหูมากๆว่าจะไม่อต่งของนัมกิพาทโศกๆแล้วนะแต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับเพลงนี้จนได้ โศกแต่ไม่สุดไม่มากเท่าที่ควรเอาแค่พอได้บรรยากาศ ㅠㅠ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น